YONG คาดผลประกอบการ Q3/66 สดใสตามคาด และมีแนวโน้มเป็นขาขึ้นจนถึงสิ้นปี ดันรายได้รวมปี 66 เติบโตแข็งแกร่ง ภายหลังจากเปิด 2 โรงงานใหม่ ขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว พร้อมรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมก่อสร้าง ดันธุรกิจเติบโตต่อเนื่อง
นายสรรเพชญ ศลิษฏ์อรรถกร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยงคอนกรีต จำกัด (มหาชน) หรือ YONG ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์คอนกรีตผสมเสร็จ และให้บริการติดตั้งโครงสร้างสำเร็จรูป ร่วมให้ข้อมูลผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในกิจกรรมบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน (Opportunity Day) ถ่ายทอดผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดเผยถึง แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2566 (สิ้นสุด 30 กันยายน 2566) คาดว่าบริษัทฯจะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 2/2566 และเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 3 ของปีที่ผ่านมา เนื่องจากดีมานด์ของธุรกิจผลิตภัณฑ์คอนกรีตผสมเสร็จฟื้นตัว และได้รับแรงสนับสนุนจาก 2 โรงงานใหม่ ที่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี และ อ.บางเลน จ.นครปฐม สนับสนุนกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ทำให้สามารถรองรับออเดอร์ที่เข้ามาได้เพิ่มขึ้น
ด้วยจุดแข็งจากการมีโรงงานทั้งหมด 7 แห่ง (ไม่รวมสำนักงานใหญ่) อยู่ใน 4 จังหวัด ได้แก่ จ.กาญจนบุรี จ.นครปฐม จ.นนทบุรี และ จ.ชลบุรี พร้อมตอบโจทย์ลูกค้าในงานเมกะโปรเจ็กต์ของภาครัฐบาลและเอกชน ที่ทยอยออกมาในพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ เพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจ สนับสนุนรายได้ในอนาคตเติบโตได้แข็งแกร่ง
อย่างไรก็ดี ปัจจุบัน บริษัทฯ มีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ากว่า 663 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ภายในปีนี้ประมาณ 75% และคาดครึ่งปีหลังฟอร์มยังดี เติบโตต่อเนื่อง สนับสนุนปี 2566 รายได้เติบโต 12-15% จากปีก่อน พร้อมวางเป้าหมายในการก้าวสู่ผู้นำในธุรกิจผลิตภัณฑ์คอนกรีต สร้างการเติบโตของผลการดำเนินงาน ควบคู่การพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ การบริการ และการขยายกำลังการผลิต เพื่อรองรับงานโครงการทั้งภาครัฐบาลและเอกชนในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ ด้วยการบริหารงานอย่างมืออาชีพ ดังวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ เป็นผู้นำผลิตภัณฑ์คอนกรีตด้วยนวัตกรรม มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพ สู่มาตรฐานระดับสากล
“ปีนี้มองว่าจะเป็นอีกปีที่ดีของ YONG ภายใต้การดำเนินธุรกิจครอบคลุม 3 ส่วนหลัก ได้แก่ 1) ส่วนงานผลิตคอนกรีต 2) ส่วนงานรับเหมาติดตั้ง และ 3) ส่วนงานธุรกิจขนส่ง ทำให้เราสามารถสร้างรายได้ครอบคลุมทุกมิติแบบ 360 องศา จากความพร้อมในการขยายกำลังการผลิต ทำให้บริษัทฯ สามารถรองรับการขยายงานของภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างที่กำลังเดินหน้าภายหลังการจัดตั้งรัฐบาลใหม่แล้วเสร็จ ส่งผลบวกต่อความเชื่อมั่นในภาคการลงทุน และภาคงานก่อสร้างที่คาดว่าจะมีการเดินหน้าโครงการใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง” นายสรรเพชญ กล่าว
ที่มา : https://www.clubhoon.com/mainnews_detail.php?id=UDhWRlNlQzFJd2QzUjlGQ01qUW5NQT09&cate_id=1